Search

ชาวปากพูนร้องจัดการประมงผิดกฎหมายเด็ดขาด - สำนักข่าว ไอเอ็นเอ็น

ikunabgus.blogspot.com

ที่นครศรีธรรมราช นายบัญชา สุขแก้ว รองอธิบดีกรมประมง ได้เดินทางลงพื้นที่บริเวณชุมชนชาวประมงพื้นบ้านปากอ่าวบ้านปากพูน ตำบลปากพูน อำเภอเมืองนครศรีธรรมราช เพื่อให้กำลังใจและติดตามโครงการสนับสนุนการทำประมงอย่างยั่งยืนโดยเฉพาะประมงพื้นบ้าน โดยกลุ่มชาวประมงพื้นบ้านในตำบลปากพูนได้ร่วมกันสร้างธนาคารปูม้า รวมทั้งพื้นที่อนุรักษ์หอยแครง โดยกรมประมงสนับสนุนพันธ์งบประมาณจัดซื้อลูกพันธ์หอยแครง เข้ามาปล่อยในพื้นที่ปากอ่าวปากพูน ขณะที่ชาวบ้านสร้างกฎกติกาชุมชนร่วมกันในการอนุรักษ์และใช้เวลาให้หอยเติบโตจนได้ขนาดจึงจะมีการงมเก็บ แต่ก่อนหน้านี้กลับมีกลุ่มชาวประมงพื้นบ้านจากต่างถิ่นยกกำลังคนนับร้อยคนเข้างมเก็บหอยทุกขนาดในพื้นที่อนุรักษ์ โดยไม่สนใจการสร้างกฎกติกาชุมชนของเจ้าของพื้นที่ อ้างว่าเป็นทะเลสาธารณะใครจะหาสัตว์น้ำตรงไหนก็ได้ทั้งยังมีท่าทีแข็งกร้าว โดยชาวบ้านในพื้นที่ต้องยินยอมเนื่องจากเกรงเหตุการณ์บานปลาย

ขณะเดียวกันชาวบ้านได้ร้องเรียนถึงการลักลอบทำประมงผิดกฎหมาย เช่นการลักลอบคราดหอยโดยเครื่องมือผิดกฎหมาย กับนายบัญชา สุขแก้ว รองอธิบดีกรมประมง โดยเรียกร้องให้มีการกวาดล้างจับกุมอย่างจริงจังเนื่องจากการคราดหอยได้ทำลายพื้นที่ระบบนิเวศน์ รวมทั้งชาวประมงพื้นบ้านที่รวมกลุ่มกันสร้างพื้นที่อนุรักษ์ตามวิถีประมงพื้นบ้านถูกกล่าวหาจากชาวประมงต่างถิ่นที่มีผู้กว้างขวางคอยหนุนหลังว่าพยายามที่จะยึดพื้นที่สร้างคอกหอยโดยไร้ข้อเท็จจริง

นายบัญชาท สุขแก้ว อธิบดีกรมประมง เปิดเผยว่าการติดตามโครงการพบว่าได้สร้างความเข้มแข็ง ที่สำคัญนั้นทางกลุ่มอนุรักษ์ได้นำหอยมาปล่อยมาดูแลกันไม่ได้มีการกีดกันที่จะให้คนที่อื่นมาใช้ประโยชน์ เพียงแต่รอเมื่อสัตว์น้ำได้ขนาดก็สามารถเปิดให้ใช้ประโยชน์ได้ทุกคนทีสิทธิใช้ แต่ต้องสร้างกฎกติกาชุมชนเพื่อรักษาทรัพยากร ซึ่งกรมประมงได้ประเมินพบว่ามีตัวชี้วัดที่ดีขึ้นคือความหนาแน่นของสัตว์น้ำเพิ่มมากขึ้น รายได้ของชาวประมงเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยยะสำคัญ ส่วนตัวที่สามคือระดับการมีส่วนร่วมที่อยู่ในระดับที่ดีมาก

Let's block ads! (Why?)




June 23, 2020 at 01:28PM
https://ift.tt/316Xe3b

ชาวปากพูนร้องจัดการประมงผิดกฎหมายเด็ดขาด - สำนักข่าว ไอเอ็นเอ็น

https://ift.tt/2Y3VpRs


Bagikan Berita Ini

0 Response to "ชาวปากพูนร้องจัดการประมงผิดกฎหมายเด็ดขาด - สำนักข่าว ไอเอ็นเอ็น"

Post a Comment

Powered by Blogger.