ประมงเตือนโรคสัตว์น้ำ อุทกภัยระวังจระเข้หลุด - ไทยรัฐ

ikunabgus.blogspot.com

นายบรรจง จำนงศิตธรรม รองอธิบดีกรมประมง เผยถึงสภาพอากาศเข้าสู่ฤดูฝน หลายพื้นที่มีฝนตก อุณหภูมิ ปริมาณน้ำในแหล่งธรรมชาติและบ่อเลี้ยงสัตว์น้ำ มีการเปลี่ยนแปลงฉับพลัน อาจจะทำให้เกิดโรคแก่สัตว์น้ำได้

สำหรับโรคสัตว์น้ำที่พบได้บ่อย ได้แก่ โรคที่เกิดจากปรสิต ที่พบในปลา เช่น เห็บระฆัง ปลิงใส เหาปลา และหมัดปลา ทำให้ปลามีอาการผิดปกติ อาทิ ว่ายน้ำผิดปกติ หายใจถี่ มีจุดแดงตามผิวลำตัว สามารถรักษาได้โดยใช้ด่างทับทิม 1-2 กรัมต่อน้ำ 1 ตัน ส่วนปลาที่เลี้ยงไว้ในกระชัง ให้ใช้ผ้าใบหุ้มกระชังก่อนสาดสารเคมี และแช่ถุงด่างทับทิม หรือถุงเกลือ ไว้ในกระชังเป็นจุดๆ เพื่อช่วยลดปริมาณปรสิตที่อยู่ในกระชังและลดความเครียดให้ปลาได้ด้วย

“ส่วนโรคที่เกิดจากแบคทีเรีย เช่น วิบริโอ สเตรปโตคอคคัส แอโรโมแนส และฟลาโวแบคทีเรียม มักจะฉวยโอกาสเข้าไปทำอันตรายปลาเมื่อปลาอ่อนแอ และแพร่กระจายอย่างรวดเร็วผ่านทางกระแสเลือด โดยปลาที่ป่วยจะมีอาการซึม ไม่กินอาหาร มีแผลเลือดออกตามลำตัวและอวัยวะต่างๆ ส่วนเกิดกับกุ้งให้สังเกตสีตับ เหงือก ผิวตัว ทั้งนี้ หากพบสัตว์น้ำมีอาการดังกล่าว ควรส่งตรวจวินิจฉัยโรคเพื่อตรวจสอบหาชนิดแบคทีเรีย และใช้ยาต้านจุลชีพที่สามารถยับยั้งการเจริญของแบคทีเรียที่ก่อโรคให้กัน”

รองอธิบดีกรมประมงบอกอีกว่า สำหรับโรคที่เกิดจากเชื้อไวรัส เช่น เคเอชวี และทีไอแอลวี ยังมีไวรัสที่เกิดโรคในกุ้งขาว และกุ้งก้ามกราม โดยสัตว์น้ำที่ได้รับเชื้อไวรัสจะมีอาการแตกต่างกันไปตามชนิดของเชื้อ แต่อาการโดยรวม ไม่กินอาหาร อัตราการตายสูง ไม่สามารถรักษาได้ด้วยการใช้ยาและสารเคมี เกษตรกรควรป้องกันโดยการจัดการเลี้ยงสัตว์น้ำที่ดีและหลักความปลอดภัยทางชีวภาพ เพื่อลดความเสี่ยงและลดช่องทางในการรับเชื้อ ขณะนี้กรมได้เร่งแจ้งเตือนผู้เพาะเลี้ยงสัตว์น้ำเพื่อเฝ้าระวัง ป้องกัน และหลีกเลี่ยงความเสียหายที่จะเกิดขึ้นให้มากที่สุด

และปีนี้ กรมประมงได้เน้นย้ำเตือนเกษตรกรให้เฝ้าระวังการเลี้ยงจระเข้อย่างเข้มงวดเป็นพิเศษ พร้อมออกตรวจสอบสถานที่เลี้ยงให้มีความแข็งแรง ตรวจสอบจำนวนจระเข้ เพื่อป้องกันการหลุดลอดออกจากฟาร์มเลี้ยงในช่วงที่เกิดอุทกภัย และหากมีปัญหาสามารถติดต่อได้ที่สำนักงานประมงจังหวัด และกองวิจัยและพัฒนาสุขภาพสัตว์น้ำ 0-2562-0600-15.