สำนักงานประมงจังหวัดหนองคาย รื้อสิ่งกีดขวางในลำห้วย ที่กระทบกับการขยายพันธุ์ของปลาในฤดูน้ำหลาก ที่ลำห้วยโมง ต.นาข่า อ.ท่าบ่อ และ ลำน้ำสวย ต.เหล่าต่างคำ อ.โพนพิสัย
วันที่ 18 มิถุนายน 2563 นายสุริยา จงโยธา ประมงจังหวัดหนองคาย มอบหมายให้ เจ้าหน้าที่หน่วยป้องกันและปราบปรามประมงน้ำจืดเขื่อนน้ำอูน สกลนคร รวม 5 นาย ร่วมกับกำนัน ต.นาข่า อ.ท่าบ่อ จ.หนองคาย ออกปฏิบัติงานควบคุมการทำการประมงและประชาสัมพันธ์มาตรการอนุรักษ์ทรัพยากรสัตว์น้ำในฤดูสัตว์น้ำจืดมีไข่ วางไข่ เลี้ยงตัวอ่อน พื้นที่อำเภอท่าบ่อ จังหวัดหนองคาย และได้ทำการรื้อถอน/ยึดเครื่องมือทำการประมง ประเภท ลอบ จำนวน 3 ลูก ประกอบหลักกางกั้นขวางทางเดินของสัตว์น้ำความยาวประมาณ 15 เมตร และเผือก บริเวณลำน้ำโมง บ้านพฤกษาหาร ม.5 ต.นาข่า อ.ท่าบ่อ จำนวน 2 จุด พร้อมกับแจ้งความเป็นหลักฐานที่ สภ.ท่าบ่อ ซึ่งการทำประมงในช่วงฤดูปลาวางไข่ฯ และด้วยเครื่องมือดังกล่าวมีความผิดตามมาตรา 63 และมาตรา 70 แห่ง พ.ร.ก.การประมง พ.ศ. 2558 และประกาศกรมประมง ฉบับลงวันที่ 20 พฤษภาคม 2563
ทั้งนี้เมื่อวันที่ 17 มิถุนายน 2563 นายสุริยา จงโยธา ประมงจังหวัดหนองคาย มอบหมายให้เจ้าหน้าที่หน่วยป้องกันและปราบปรามประมงน้ำจืดเขื่อนน้ำอูน สกลนคร รวม 8 นาย ออกปฏิบัติงานควบคุมการทำการประมงและประชาสัมพันธ์มาตรการอนุรักษ์ทรัพยากรสัตว์น้ำในฤดูสัตว์น้ำจืดมีไข่ วางไข่ เลี้ยงตัวอ่อน พื้นที่อำเภอโพนพิสัย จังหวัดหนองคาย และได้ทำการรื้อถอน/ยึดเครื่องมือทำการประมง ประเภท ลอบ จำนวน 15 ลูก ประกอบตาข่ายกางกั้นขวางทางเดินของสัตว์น้ำความยาวประมาณ 30 เมตร บริเวณลำน้ำสวย บ้านสุขสำราญ ม.5 ต.เหล่าต่างคำ อ.โพนพิสัย จ.หนองคาย จำนวน 1 จุด พร้อมกับแจ้งความเป็นหลักฐานที่ สภ.เหล่าต่างคำ ซึ่งการทำประมงในช่วงฤดูปลาวางไข่ฯ และด้วยเครื่องมือดังกล่าวมีความผิดตามมาตรา 63 และมาตรา 70 แห่ง พ.ร.ก.การประมง พ.ศ. 2558 และประกาศกรมประมง ฉบับลงวันที่ 20 พฤษภาคม 2563
นายสุริยา จงโยธา ประมงจังหวัดหนองคาย กล่าวว่า สิ่งกีดขวางที่ชาวบ้านสร้างในลำห้วยโมงถือเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย พระราชกำหนดการประมง 2558 มาตรา 63 ที่เขียนไว้ว่า ห้ามผู้ใดวางขวางกั้น หรือทำเป็นแนวกันตลิ่ง อวน เพื่อกั้นทางเดินของสัตว์น้ำ หรือส่งผลกระทบต่อการเจริญเติบโตของสัตว์น้ำ ซึ่งปกติในฤดูน้ำหลากพ่อ-แม่พันธุ์ปลาจะว่ายทวนน้ำขึ้นไปผสมพันธุ์และวางไข่ที่ต้นน้ำ เจริญเติบโตเป็นทรัพยากรสัตว์น้ำให้ประชาชนส่วนใหญ่ได้บริโภคใช้ร่วมกัน แต่มีประชาชนบางคนที่อาจรู้เท่าไม่ถึงการณ์มาสร้างสิ่งกีดขวางพ่อ-แม่พันธุ์ปลา
ประมงจังหวัดหนองคาย กล่าวต่อไปว่า ทรัพยากรประมงเป็นของประชาชนชาวไทยทุกคน ที่จะต้องร่วมกันอนุรักษ์ดูแล ร่วมกันรักษา และร่วมกันจัดสรรประโยชน์ให้ทั่วถึงกัน ซึ่งการอนุรักษ์ไม่ใช่การเก็บรักษาไว้โดยที่ไม่ใช้ประโยชน์ แต่เป็นการจัดสรรทรัพยากรทางการประมงให้กับคนได้มากที่สุด นานที่สุด โดยทุกคนมีส่วนที่จะเข้าถึงได้ ภายใต้ความเอื้อเฟื้อและความมีน้ำใจให้แก่กัน ไม่ใช่ใครกลุ่มใดกลุ่มหนึ่งหรือคนใดคนหนึ่งได้ผลประโยชน์
สำหรับการการปักเสาไว้ในลำห้วย รื้อถอนได้ง่ายในฤดูแล้งที่น้ำลด หากไม่มีการรื้อถอนเมื่อถึงฤดูน้ำหลาก ผู้กระทำความผิดหรือผู้ที่อยากได้สัตว์น้ำก็จะนำอุปกรณ์จับปลาทั้งอวนและโพงพางมาดักมากั้นเพื่อจับปลา ซึ่งจะทำให้พ่อ-แม่พันธุ์ปลาที่จะผลิตลูกปลาสร้างความอุดมสมบูรณ์ให้กับแหล่งน้ำถูกจับหรือถูกใช้ประโยชน์อย่างที่ไม่ควรจะเกิดขึ้น สำหรับลำห้วยโมงถือเป็นลำห้วยสาขาขนาดใหญ่ของแม่น้ำโขง เมื่อถึงช่วงที่น้ำในแม่น้ำโขงมีระดับสูง ประกอบกับน้ำในลำห้วยโมงไหลลงในแม่น้ำโขง ก็จะทำให้ปลาในแม่น้ำโขงว่ายสวนกระแสน้ำเพื่อไปหาน้ำใหม่หรือไปหาต้นน้ำ เพื่อผสมพันธุ์และวางไข่ ซึ่งมีโอกาสเป็นไปได้สูง
นายสุริยา จงโยธา ประมงจังหวัดหนองคาย ได้ฝากถึงประชาชนชาวหนองคายว่า กรมประมงดีใจ ที่ประชาชนชื่นชอบสัตว์น้ำ นิยมบริโภค และจับสัตว์น้ำ ถือเป็นความภูมิใจของกรมประมงที่ได้ทำหน้าที่ แต่ความอุดมสมบูรณ์ด้านการประมงควรจะได้มีการแบ่งปันให้กับทุกคน ผู้ที่มีความเข้าใจว่าการดักจับปลาในลำห้วยโดยใช้การสร้างสิ่งกีดขวางแล้วกลุ่มของตนหรือตนได้ประโยชน์เท่านั้น แต่ทำให้ความอุดมสมบูรณ์ไม่ขยายไปถือเป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้อง จึงควรจับปลาในวิธีที่ถูกต้อง เครื่องมือจับปลาที่ห้ามใช้ ฤดูกาลที่ห้ามจับปลา หรือในบางพื้นที่ ๆ ห้ามจับปลา ทุกคนก็ควรร่วมกันอนุรักษ์.
June 18, 2020 at 08:48PM
https://ift.tt/37HNoGr
ประมงหนองคาย รื้อสิ่งกีดขวางในลำห้วย ที่กระทบกับการขยายพันธุ์ของปลาในฤดูน้ำหลาก - สยามรัฐ
https://ift.tt/2Y3VpRs
Bagikan Berita Ini
0 Response to "ประมงหนองคาย รื้อสิ่งกีดขวางในลำห้วย ที่กระทบกับการขยายพันธุ์ของปลาในฤดูน้ำหลาก - สยามรัฐ"
Post a Comment